31 ธันวาคม 2559

จงเรียนรู้จากตัวเรา

....^ Happy new year'2017^....

จงเรียนรู้ที่จะเอาชนะตนเอง...
แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ดูยาก
แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เราทำได้...
ผลที่ได้รับนั้นช่างปีติใจและงดงามยิ่งกว่าอะไร !!

ยิ่งถ้าเราเคยผ่านบทเรียนที่เป็น 'อุปสรรค...'
เรื่องราวที่เราเคยก้าวผ่านมาทั้งร้ายดี
ยิ่งยากเท่าไหร่...ต้องน้ำตาไหลแค่ไหน
ผ่านความสุขมากี่หนอาจปนมาด้วยความทุกข์กี่ครั้ง

"จงเรียนรู้จากประสบการณ์ของตัวของเราเอง"

และจงเชื่อเถอะว่า...เมื่อเราผ่านพ้นมันไปได้
เราจะยิ่งอดทนและเข้มแข็งขึ้นเท่านั้น..เสมอ📌

#จงระวังรักษาใจตน
--------------------------------
ชุตินฺธโร นาม
26/12/2559

27 ธันวาคม 2559

กำหนดงานประจำปี

ขอเชิญร่วมกันสักการะพระสารีริกธาตุ และปิดทองหลวงพ่อศิลาแลง(หลวงพ่อหิน)
ในงานประจำปีวัดบางแพรก ระหว่างวันที่
๑๗ ถึง ๑๙ กุมภาพันธ์  พศ.๒๕๖๐

21 ธันวาคม 2559

เรื่องของเหี้ย

"#เรื่องตัวเหี้ย (ตัวเงินตัวทอง)"

รู้สึกดีกับการเป็นคนชอบสร้างภาพ+บรรยาย
เพราะตอนนี้รู้สึกว่าจะชอบการเขียน
ซึ่งมาจากการได้อ่าน.......อ่าน........อ่าน(มากขึ้น)
ทำให้เข้าใจผู้คนมากขึ้น รู้จักตัวเองมากขึ้น

#มันทุกข์น้อยลง
ไม่สนใจว่าใครจะคิดต่อเราอย่างไร
ไม่สนใจในคำต่างๆที่เข้ามากระทบ
ไม่สนใจต่อสิ่งที่ไม่นำความสุขมาให้เรา

ทำ... ในสิ่งที่ใครไม่ ทำ เราจะได้ ทำ และ ธรรม

ทำ... ในสิ่งที่คน ทำ เราจะไม่ได้ทำ และ ไม่ได้ธรรม

""#ทำดี อะไรที่คิดว่า ดี ทำไปเถอะ อย่าคิดว่าทำแล้วเราจะได้อะไร
แต่ควรคิดว่าเราทำเพื่อใคร
คิดมากเดี๋ยวอาจจะไม่ได้ทำ""

"#จงให้เวลากับเวลา"
ถ้าคนเรามีชีวิตอยู่ ๗๐ ปี เท่ากับเรามีชีวิตอยู่ ๒๒.๕๕๐ วัน หรือ คิดเป็น 

๖๑๓,๒๐๐ ชั่วโมง

๓๖,๗๙๒,๐๐๐ นาทีส่วนวินาที เอา ๖๐ คูณเข้าไป

มีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ๓,๖๔๐ วัน วันนักขัตฤกษ์อีกประมาณ ๑,๐๐๐ วัน

แม้ว่า...มันอาจจะดูเหมือนว่าเยอะมาก
แต่....มันน้อยมากหากไปเทียบกับสิ่งที่
เราไม่ได้ทำอีกนับร้อยนับพันเรื่องหรือมากกว่านั้น

มี...ความรู้สึกในใจอีกมากมายที่ยัง
ไม่เคยได้บอกคนที่อยากบอก

มี....พื้นที่อีกหลายล้านตารางกิโลเมตร
ที่ยังไม่เคยไปไม่เคยฝากรอยเท้าไว้

มี...เพื่อนอีกหลายคนที่เราไม่ได้กล่าวขอบคุณ
กล่าวคำขอบใจ หรือคำขอโทษ

มี...คำพูดดีๆ ที่นับร้อยล้านคำที่ยังไม่ได้พูด

มี....อะไรต่อมิอะไรที่เรายังไม่ได้ทำ และอีกฯลฯ

คุณสมบัติอย่างหนึ่งของเวลา...  คือ
เราประหยัดเวลาได้แต่เราไม่อาจ
เก็บมันได้แม้กระทั้งเสี้ยววินาที 
เวลากลืนกินทุกสรรพสิ่งรวมทั้งตัวมันเอง
ไม่มีใครรู้เลยว่าแท้ที่จริงแล้ว #เรามีเวลาอยู่บนโลกได้นานเท่าไร

วันนี้ วันนั้น วันไหน ใช้เวลาให้คุ้มค่านะโยม อะไรที่เห็นว่าดี ทำเลย....อย่าคิดมาก

เราต่างรู้ดีว่า  #เวลาของวันพรุ่งนี้มีอยู่จริง แต่เรากลับไม่รู้เลยว่าจะอยู่ถึงพรุ่งนี้หรือไม่"
----------------------------------------
#ปล.เกี่ยวกับภาพตรงไหนเนี่ยพระต้น :)555

อ้าว!!! พูดเสียยาวเลยมาถึงนี่ยังไม่เข้าใจเลยว่าเกี่ยวอะไรกับ "เหี้ย"

#เพราะเผอิญเห็นมันเดินมาอย่างสงบตามวิถีของมัน

_ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร
_ให้เกียรติความเป็นคนของเรา
_ให้เกียรติต่อความเป็นเหี้ยของตัวมันเอง....

#สุดท้ายได้มองเห็นถึงอะไร??

_คำตอบคือคนเราเรียกมันว่า"เหี้ย"
เพราะชื่อของมันที่เราเรียกกันตามๆ
กันมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย   

แม้ตอนนี้มีชื่อใหม่......แต่ถามว่า
#ใครเรียกชื่อใหม่มันบ้าง??

......#ก็เรียกมันชื่อเหี้ยเหมือนเดิม....

_เห็นถึงความเรียบง่ายของวิถีเหี้ยซึ่งบางที

#มันอาจจะดีกว่าอีกหลายๆสิ่งทีเดียวล่ะ
ปล.มันอาจจะดีกว่าอีกหลายๆสิ่งทีเดียวล่ะ

...............................................................
"มองด้วยธรรม,ด้วยใจเป็นธรรม,ตามธรรม"
(ชุตินฺธโร นาม)
..21 ธค. 59..
...22.00น...

คุณบุพการี

เมื่ออ่านจบโปรดหันไปบอกแม่ของโยมนะว่า_เรารักท่านที่สุด

เป็นแม่แล้วฉันจึง....

ตอนที่ตั้งท้องว่าเหนื่อยแล้ว ตอนเป็นแม่ต่างหากล่ะที่คุณจะรู้ว่า การตั้งท้องนั่นเป็นด่านแรกแค่นั้นเอง ด่านหลังๆ นี่เป็นด่านมหาโหดเลยแหละ แต่เป็นด่านมหาโหดที่เต็มไปด้วยความสุข..ว่างั้นนะ

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า ฉันจะไม่ได้นอนเต็มอิ่มอีกต่อไป คืนหนึ่งต้องตื่นมาหลายสิบรอบ ป้อนนม เปลี่ยนผ้าอ้อม สะดุ้งเอง ฯลฯ

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า ต่อให้ง่วงก็ไม่แน่ว่าจะได้หลับ เพราะต้องคอยดูว่าลูกน้อยตื่นหรือยัง

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า เวลาเล่นเฟสก็ไม่ค่อยสนใจอย่างอื่น สนแต่เรื่องแม่และทารก คอยไปคอมเม้นท์พูดคุยกับคุณแม่มืออาชีพและคุณแม่มือใหม่

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า เวลาไปห้างฯ ก็จะดูแต่แผนกเด็ก ส่วนอื่นๆ ที่เคยชอบแทบจะไม่มีเวลาเดิน

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า ตอนที่ลูกเริ่มเปล่งเสียง แค่เสียงอ้อมแอ้มว่า “มะ” ก็ดีใจยกใหญ่เป็นค่อนวัน(แถมโทรไปเล่าให้ใครๆ ฟัง และก็ถูกใครๆ เขาบ่นว่าบ้าเห่อ)

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า คนที่ไม่ค่อยชอบเด็กอย่างฉัน ตอนนี้เห็นรูปเด็กๆ เป็นไม่ได้ อยากซื้อมาแต่งให้ลูกบ้าง คงน่ารักน่าชม

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า เวลาไปนอกบ้าน ฉันเหมือนคนบ้าหอบฟาง ทั้งกระเป๋าเล็กกระเป่าใหญ่ ผ้าอ้อมเอย ขวดนมเอย เสื้อผ้าเอย ฯลฯ

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า ฉันไม่สามารถใช้จ่ายมือเติบเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป ฉันต้องออมเงินเป็นค่าเลี้ยงดูลูกไว้มากๆ

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า เมื่อก่อนเลือกกินแล้วเลือกกินอีก หุ่นเหิ่นนี่อย่างกะนางแบบ พอมีลูกเท่านั้นแหละ อะไรที่มันมีประโยชน์ฉันกินหมด แม้ว่ามันจะไม่อร่อยยังไงก็ตาม ช่างมันเถอะ อ้วนก็ช่างมัน!

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า เวลาใครชมลูกของตัวเอง ดีใจกว่าเขาชมตัวเองไม่รู้กี่ร้อยพันเท่า

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า ฉันนี่มันนักกีฬายกน้ำหนักรุ่นเฮฟวี่เวทดีๆ นี่เอง ฉันสามารถอุ้มลูกน้อยที่ตัวแสนหนักตั้งแต่เชียงใหม่ไปประจวบได้สบายๆ

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า ฉี่เหรอ! อึเหรอ! เมื่อก่อนเห็นทีฉันแทบอ๊วก แต่นี่ลูกอึใสมือข้างหนึ่ง ฉันก็ยังเอามืออีกข้างหนึ่งหยิบมะม่วงกินได้อย่างสบายๆ เลย

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า ฉันนี่ก็คอรัสชั้นดีเหมือนกันนะเนี่ย ลูกงอแงไม่ยอมหลับไม่ยอมนอนเป็นชั่วโมง ฉันสามารุอุ้มลูกไปด้วยฮัมเพลงกล่อมไปด้วยได้เป็นชั่วโมงเลย(บางทำนองก็นึกออกตอนนั้นแหละ แต่ไม่รู้ว่าเป็นทำนองอะไร)

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า ที่แม่บอกฉันว่า “ฉันเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวแกมาจนโต” มันเป็นความจริงอย่างนี้นี่เอง

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า เวลาออกไปซื้อของนอกบ้าน ต้องรีบแจ้นกลับมา ไม่สามารถเดินเอ้อระเหยลอยชายเหมือนเก่าก่อน

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า เมื่อก่อนนี้ฝันวันเว้นวันเลย อยากเป็นโน่นอยากเป็นนี่ ตอนนี้นะเหรอ ขอให้ลูกแข็งแรง เลี้ยงง่ายไม่งอแง ขอแค่นี้ฉันก็พอใจแล้ว

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า เมื่อก่อนเป็นคนใจแข็งน่าดู แต่ตอนนี้แค่ลูกปวดท้องร้องไห้ ฉันก็ร้องไห้ซะเป็นวรรคเป็นเวรเลย

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า พ่อแม่ของฉันนี่แหละคือ ผู้ยิ่งใหญ่ตัวจริง ขอบคุณพ่อกับแม่มากนะค่ะที่เลี้ยงดูหนูมาจนโต

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า เวลาเห็นลูกยิ้มให้ โลกมันช่างน่าสดใสสิ้นดี (เมื่อก่อนแอบด่าคนข้างบ้านว่าพูดอะไรกับลูกน้อยนักหนา ลูกก็ยังฟังไม่รู้เรื่อง ตอนนี้คงมีคนคิดกับฉันแบบนี้มั่งแหละ)

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า ฉันนี่ก็จู้จี้จุกจิกเหมือนกันนะเนี่ย

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า สมองคนเราจำเรื่องราวได้จำกัด แต่เว้นเรื่องลูกไว้เรื่องหนึ่ง เรื่องของลูกนี่จำได้แทบทุกเรื่องเลย

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า การรักใครคนใดคนหนึ่งอย่างสุดหัวใจมันเป็นยังไง ลูกจ๋า แม้แต่ชีวิตของแม่ แม่ก็ให้หนูได้นะลูก!

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า การอัพรูปลูกของตัวเองขึ้นหน้าเฟสเป็นที่สุดของความสุขในเวลานี้ (เธอไม่มีลูกบ้างก็แล้วไป)

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า เสียงลูกร้องเพลงนี่เพราะกว่านักร้องตัวจริงซะอีก(แม้มันจะผิดคีย์ก็ตาม)

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า ความสุขของคนเป็นแม่ก็คือเห็นลูกน้อยกินข้าว อ้ำเอาอ้ำเอา นี่แหละ

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า ลูกไม่อึ 2 วัน ฉันนี่ใจร้อนเป็นไฟเลย

เป็นแม่แล้วฉันจึงรู้ว่า...............
ลูกจ๋า ไม่มีสิ่งใดมีค่าเท่ากับลูกของแม่อีกแล้วนะ

#ชุตินธโร

19 ธันวาคม 2559

กำลังใจในตัวเอง

ยามที่เรามีความท้อแท้
เพราะเหนื่อยเกินไปกับชีวิต
หรือเพราะผิดหวังในสิ่งที่ปรารถนาก็ตาม
เมื่อนั้นเรามักไม่อยากก้าวเดินต่อไป
แม้สักก้าวเดียว
เพราะรู้สึกไม่มีกำลังใจ
เพราะรู้สึกไร้
เรี่ยวแรงซะเหลือเกิน

เมื่อเราขาดกำลังใจ เรามักจะมองหาจากคนอื่น
ทั้งๆที่จริงแล้ว ตัวเราเท่านั้นที่จะปลุกปลอบ
ตัวเราเองได้ดีที่สุด

เพราะถึงมีคนอื่นมาให้กำลังใจ
แต่เราอาจจะไม่ได้รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาได้เลย เพราะเอาจิตใจไปผูกอยู่กับอีกคนหนึ่ง หรืออีกสิ่งหนึ่ง จนไม่รับรู้คุณค่าของกำลังใจ
ของคนที่ให้เราในขณะนั้น

และแม้ว่าเราจะต้องอยู่โดดเดี่ยว
ตามลำพังจริง
ในวันที่เรามองไม่เห็นใคร
เราก็จำเป็นต้องเป็นเพื่อนกับตัวเอง คอยปลอบโยนและเป็นกำลังใจ
ให้กับตัวเราเอง อย่าซ้ำเติมตัวเองว่าเป็นคนผิด
อย่าสอนให้ตัวเองไปโทษคนอื่นๆ แต่บอกตัวเราเองให้ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น คุยกับตัวเองว่าเราจะค่อยๆหาทางก้าวต่อไป สร้างพลังใจสู้ต่อไปจะดีกว่า

เมื่อทุกอย่างอยู่เหนือการควบคุมของเรา
เมื่อนั้น..เรามักจะเกิดความท้อแท้ใจ
วิธีสร้างพลังใจให้กลับคืนมาเป็นเรื่องง่ายๆ
ก็แค่..สร้างความเชื่อมั่นให้กับตนเองอีกครั้งให้
ได้เท่านั้น เปลี่ยนอะไรบางอย่าง จัดระเบียบ
ชีวิตใหม่ เมื่อเราควบคุมทุกอย่างได้พอเหมาะ
เราก็จะรู้สึกดีขึ้น แต่ว่า..ทุกอย่างนั้นต้อง
ค่อยเป็นค่อยไป!

"ไม่มีอะไรจะลงตัว...ได้ดั่งใจเราเสมอไป"

จำไว้นะลูก

ลูกเอ๋ย...เกิดเป็นคนนะลูก
เมื่อเราอิ่ม...ก็ควรนึกถึงคนที่เขาอดบ้าง
เมื่อเราสุข...ก็ควรคิดถึงคนที่เขาทุกข์บ้าง
เมื่อเรามี...ก็คิดถึงคนที่เขาจนบ้าง
หากลูกคิดได้อย่างนี้...
ลูกจะเป็นนักเสียสละ
เห็นใจคนอื่น.. ช่วยเหลือคนอื่นได้
และจะเป็นที่รักนับถือของคนทั่วไป
หากลูกเป็นคนเห็นแก่ตัว.. ลูกจะอยู่โดดเดี่ยว
เวลาลูกเดือดร้อน จะไม่มีใครแยแสลูกเลย...
จำไว้เถิดลูก...นี่คือคำสอนของพ่อ

ชีวิตนี้อยู่ตรงหน้า

.. ถ้าเรายังใช้ชีวิตอยู่ในอดีต
เราจะไม่มีปัจจุบัน และ..
เราจะไม่มีวันเห็นอนาคต!

ยิ่งเราได้เรียนรู้มากขึ้น เราจะ
พูดคำว่า "รู้แล้ว"ได้น้อยลง

การให้อภัยคนที่ทำให้เรา
เจ็บปวด ไม่ใช่เพื่อคนๆนั้น แต่เพื่อ
เราคนนี้ ที่จะได้ปลดปล่อยตัวเอง
ให้เป็นอิสระจากบ่วงแค้น

เรื่องง่ายที่สุดเรื่องหนึ่งใน
ชีวิตคนเราคือการยอมแพ้

ส่วนเรื่องยากที่สุดเรื่องหนี่ง
ในชีวิตมนุษย์คือการมีวินัยทำ
บางอย่างนานพอจนเกิดการ
เปลี่ยนแปลง!

อย่าทำงานหนักเกินไป...
จนไร้ความสุข ชีวิตคนเกิดมา
เพื่อมีความสุขจากทุกกิจกรรม
ไม่ใช่เกิดมาเพื่อทำงานอย่างเดียว!

ทุกความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เกิด
จากความสำเร็จเล็กๆหลายๆ
ครั้งมาประกอบกัน ดังนั้นจงก้าว
ให้สั้น แต่ฝันให้ไกล!

สัญชาติญาณไม่ได้เกิดขึ้นมาเอง
แต่มันคือบทเรียนที่เราเรียนรู้โดย
ไม่รู้ตัว ซึ่งจะช่วยไม่ให้เราตัดสินใจ
ผิดพลาดในเรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำอีก

จงฟังเสียงหัวใจของตัวเอง
ไม่ใช่หัวใจของคนอื่น!

คนเรานั้นมักจะไขว้เขวอยู่เสมอ
เมื่อเจอเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึง
ความเป็นไปได้ และจะมัวแต่กลัว
จนไม่กล้าไปต่อ!

จงรู้ไว้เสมอ..
ใช่ว่าทุกสถานการณ์ในชีวิตจะ
เป็นตามแผน แต่ให้รู้ไว้เช่นกันว่า
ทุกสถานการณ์สามารถทำให้ดี
ที่สุดเท่าที่จะทำได้เต็มความสามารถ
ก็พอ!

ชีวิตที่เกิดมาเปรียบดัง..ของขวัญ
ล้ำค่าที่ธรรมชาติมอบให้ เป็นสิ่งที่
ควรรักษาใช้มันอย่างทนุถนอมและ
คุ้มค่าที่สุดจะได้ไม่ต้องมาเสียใจ
ภายหลังกับสิ่งที่ไม่ได้ทำและ
ไม่สามารถทำได้อีกแล้ว!

ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จ
สิ่งที่ควรทำที่สุดคือการ
"วิ่งหาโอกาส" ไม่ใช่
"นั่งรอโอกาส" มาหา

คาถาเดียวที่เราต้องใช้เวลาชีวิตเจอวิกฤติคือ..
"อดทน และเดี๋ยวมันก็ผ่านไป"

ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนแปลงเสมอ
แม้มันจะดูเหมือนเดิมแค่ไหนก็ตาม
"ไม่มีสิ่งใด..ไม่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา"

อย่าให้ใครมากำหนดคุณค่าของ
ตัวเรา..เราเท่านั้นที่จะรู้ว่าเรามีค่า
แค่ไหนและสามารถทำอะไรได้บ้าง
คนทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง เพียงแต่จะ
ดึงศักยภาพที่มีออกมาใช้ได้มากน้อย
แค่ไหนเท่านั้นเอง!

ความกล้าหาญที่แท้จริง..
เกิดจากการตัดสินใจที่เด็ดขาด
ในชีวิต..โดยที้ไม่สนใจว่าผลจะ
ออกมาเป็นเช่นไร
และจะไม่มีวันเสียใจที่ได้ลงมือทำ!

ความทุกข์เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในใจ
ไม่ต้องหนีไปไหน เพราะมันจะตามไป
ทุกหนแห่ง ทำให้สุขใจก็สุข..ทำให้ทุกข์
ใจก็ทุกข์ หนีปัญหาก็เจอปัญหา หนีคน
ก็เจอคน หนีสิ่งใดก็เจอสิ่งนั้น
"เมื่อหนีปัญหาไม่พ้น..ก็วิ่งชนมันดูซักที"

รักนี้ที่งดงาม

ความรักคือสิ่งที่ทำให้โลกสวยงาม
แต่มันก็กลายเป็นดาบสองคมได้

หากรักนั้นไม่ประกอบด้วยความ
มีสติเป็นที่ตั้ง เพราะเมื่อไหร่ที่ขาด
สติ เราจะหลงคิดว่ารักมาก
เท่าไหร่ เราต้องได้ความรักกลับ
มามากเช่นกัน นั้นคือการคิดที่
ไม่ถูกต้องเพราะความเป็นจริงแล้ว
รักเดียวที่เรากำหนดได้ คือรักเดียว
ในใจเรา และ รักมากเพียงใดก็ต้อง
มีวันพลัดพราก ดังนั้นแล้วเมื่อมีรัก
แล้วก็ต้องมีทุกข์เป็นของแถม
ซึ่งถือเป็นธรรมดา

การรักอย่างมีสตินั้น ไม่ใช่ว่าเราจะ
ไม่ทุกข์เราจะมีทุกข์แน่นอน แต่การ
รักให้มีสตินั้น จะทำให้เราเห็นค่าใน
เวลาที่ยังมีกันอยู่ จะได้ดูแลเอาใจใส่
ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ หรือ คนรักเพราะ
วันหนึ่งเมื่อเขาเหล่านั้นต้องจากเราไป
หรือเราต้องจากเขาไป  เราจึงต้อง
เห็นค่าของเวลาในปัจจุบันและทำ
เวลาที่มีอยู่นี้ให้ดีที่สุด

การรักให้มีสติ คือ เราต้องยอมรับ
ในสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ว่าทุกอย่างไม่มี
อะไรสมบูรณ์แบบไม่มีอะไรได้ดั่งใจ
เราไปทุกอย่าง..และแน่นอนต้องรู้จัก
การให้อภัยรู้จักเข้าใจว่าทุกคนมีความ
แตกต่าง และท้ายที่สุดเมื่อความรัก
และคนรักต้องจากเราไป จงเก็บไว้
แต่ความรู้สึกดีๆ และบอกตัวเองว่า
ความรัก..สอนอะไรเราตั้งมากมาย
ทั้ง ช่วงเวลาของความสุขหรือช่วง
เวลาของความทุกข์

และสุดท้ายความรัก..ได้สอนเราว่า
เราควรต้องปล่อยวางเมื่อทุกอย่าง
ถึงที่สุดแล้ว!

"รักนั้นมีคุณอนันต์..แต่ก็มีโทษมหันต์"
หากรักนั้นขาดสติในการควบคุม!

ผู้ให้การปรึกษา Counseling

Counseling

ก่อนจะให้คำปรึกษาใคร!!!

1. คุณจำเป็นต้องวางอัตตาตัวตนของคุณลงก่อน เพื่อรับฟัง เปรียบเหมือนเทน้ำในแก้วของตนเอง เพื่อรองรับน้ำใหม่จากผู้ขอคำปรึกษา

2. คุณต้องตระหนักอยู่เสมอว่า บุคคลตรงหน้า คือผู้ที่กำลังมีความทุกข์ มีปัญหาและต้องการคำตอบเพื่อบรรเทาทุกข์ ดังนั้น จิตใจของเขาย่อมอยู่ในช่วงเวลาที่กำลังอ่อนแอ สับสน และต้องการกำลังใจ

3. จงตั้งใจฟัง คุณต้องฟังให้ได้ยิน ไม่ใช่แค่เสียง ไม่ใช่แค่รู้ความหมาย แต่คุณต้องเปิดใจรับฟังด้วยความเมตตา และคิดถึงใจเขาใจเรา แสดงให้เขาสัมผัสได้ว่า เขาคือคนสำคัญที่คุณกำลังสนใจฟัง

4. ปล่อยให้เขาพูดในสิ่งที่ต้องการจะพูด ให้เขาได้บอกเล่าความรู้สึก ให้เขาได้บอกเล่าสิ่งที่คิด เพราะนั่นคือการระบายความในใจ ซึ่งจะทำให้เขาคลายความอึดอัดลงได้

5. เมื่อคุณรับฟังจนเข้าใจแล้ว จงให้คำแนะนำไปตามสิ่งที่ตนเองรู้ อะไรที่รู้ก็แนะนำไป อะไรที่ไม่รู้อย่าไปคาดเดา ตามความเข้าใจของตนเอง เมื่อไม่รู้ คุณก็บอกเขาไปตรงๆว่า คุณไม่รู้

6. แต่ละบุคคลมีข้อจำกัด และสิ่งแวดล้อม รวมถึงสภาพจิตใจที่ต่างกัน วิธีแก้บางวิธีอาจได้ผลกับคนหนึ่ง แต่ไม่ได้แปลว่า วิธีดังกล่าวจะได้ผลกับทุกคน ดังนั้นผู้ให้คำปรึกษา จะต้องดูเป็นรายๆ ไป ไม่อาจนำมาเปรียบเทียบกับกรณีที่ผ่านไปแล้วได้

7. อย่าแนะนำในสิ่งที่เป็นอุดมคติ หมายความว่า คุณต้องเข้าใจว่า ทุกคนเป็นมนุษย์ มีรัก โลภ โกรธ หลง มีอ่อนแอ ผิดหวัง เสียใจ ดังนั้น คำแนะนำของคุณ ควรเป็นคำแนะนำที่ปฏิบัติตามได้ ไม่ใช่คำแนะนำในจิตนาการที่ฟังดูดี แต่ไม่อาจใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริง

8. ผู้ให้คำปรึกษา ไม่ควรโกรธ ไม่ควรใช้อารมณ์ ไม่ควรยึดติดกับคำแนะนำของตนเอง เพราะหากเป็นเช่นนั้นแล้ว ย่อมหมายความว่า คุณไม่ใช่ผู้ให้คำปรึกษา แต่คุณคือผู้เพิ่มปัญหาให้ผู้ที่กำลังเดือดร้อนอยู่

9. ผู้ให้คำปรึกษา สมควรมีความเข้าใจตนเอง มีความรู้ในด้านที่ตนเองกำลังให้คำปรึกษาอยู่ การให้คำปรึกษา สมควรอย่างยิ่งที่จะอยู่ในกรอบของความดีงาม ไม่ใช้ระบบลักษณะตาต่อตาฟันต่อฟัน ผู้ให้คำปรึกษาควรเป็นผู้มีวุฒิภาวะ คุณธรรม และความเข้าใจธรรมดาของโลกเป็นของตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น คุณไม่ควรให้คำแนะนำใครในช่วงเวลาที่คุณอยู่ในสภาพจิตใจที่ไม่พร้อมจะให้คำแนะนำ

10. การให้คำปรึกษา เป็นคนละเรื่องกับการอวดตน จงให้คำปรึกษาอย่างอ่อนน้อม ถ่อมตน คิดอยู่เสมอว่า เราเองก็เคยผิดพลาด เราเองก็ไม่ได้ดีไปทุกอย่าง และไม่ได้รู้ไปทุกเรื่อง และการที่เขามาขอคำปรึกษา ก็ไม่ได้แปลว่าเขาไร้ความสามารถ หากแต่เป็นธรรมดาที่คนเราจะมีช่วงเวลาที่ไม่สบายใจ และต้องการใครสักคน

11. การให้คำปรึกษาที่ดี นอกจากจะให้ทัศนคติที่ถูกต้องแล้ว คุณควรมีแผนการปฏิบัติเพื่อถึงเป้าหมายให้เขาด้วย เช่นคุณบอกว่า ควรปล่อยวาง คุณก็ควรมีขั้นตอนว่า เขาจะไปถึงความปล่อยวางได้อย่างไรหนึ่ง สอง สาม สี่ การให้คำปรึกษาจึงไม่ล่องลอย จับต้องได้ และนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

12. ผู้ให้คำปรึกษาไม่ควรแนะนำในสิ่งที่ตนเองไม่มีความรู้ โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ เรื่องความรู้สึก เพราะเรื่องเหล่านี้มีความละเอียดอ่อนเกินกว่าจะเอาเหตุผลเชิงตรรกะเข้าไปวิเคราะห์ ดังนั้นจึงไม่ควรใช้การสันนิษฐาน ไม่ควรใช้การคาดเดา ไม่ควรมีการตัดสินในลักษณะฟันธงเด็ดขาด เพราะเมื่อเกิดความเสียหายขึ้น คุณไม่ได้เป็นผู้เผชิญกับความเสียหายนั้น หากแต่ผู้ที่เผชิญก็คือผู้ที่ขอคำปรึกษา ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ผู้ให้คำปรึกษาต้องตระหนักเป็นลำดับต้นๆ

13. คำแนะนำต่างๆ ควรเป็นคำแนะนำที่ถูกที่ ถูกเวลา ถูกกับสภาพจิตใจของเขาในช่วงเวลานั้นๆ และคำแนะนำที่ดีที่สุดไม่มีจริง คำแนะนำจะต้องปรับเปลี่ยนไปตามบุคคล เหตุการณ์ และสภาพจิตใจ ยิ่งไปกว่านั้น คำแนะนำที่ดีควรมีทั้งทางออก การแก้ และหนทางป้องกันปัญหาครั้งต่อๆ ไปไม่ให้เกิดขึ้นอีก

14. เมื่อพบว่า ผู้ขอคำปรึกษา มักปรึกษาในเรื่องเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ให้มีความเข้าใจว่า เขาอาจยังไม่พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนจริงๆ ให้ยุติการให้คำปรึกษา แต่เปลี่ยนเป็นการรับฟังแทน

15. ผู้ให้คำปรึกษาควรระลึกไว้เสมอว่า ผู้ขอคำปรึกษาไม่จำเป็นต้องทำตามคำแนะนำ และเมื่อรู้ว่า เขาไม่ทำตามคำแนะนำ ก็ไม่สมควรโกรธ แต่ควรปล่อยวาง บนพื้นฐานความเข้าใจว่า ทุกคนย่อมมีความคิด ชีวิต รวมถึงแนวทางการตัดสินใจเป็นของตนเอง นอกจากนี้ผู้ให้คำปรึกษา ควรน้อมเอาปัญหาต่างๆ ของผู้ขอรับคำปรึกษา มาพิจารณาจนเกิดเป็นปัญญาของตนเอง นำไปสู่การเข้าใจตนเอง และเข้าใจผู้อื่น การให้คำปรึกษาต่างๆ จะต้องไม่ย้อนกลับมาสร้างความทุกข์ใจให้ตนเอง ควรรักษาจิตใจของตนเองให้มีความเบิกบานอยู่เสมอ ควรระลึกเสมอว่า ทุกคนมีวาระกรรมเป็นของตนเอง เมื่อช่วยเหลือจนถึงที่สุดแล้ว ก็ต้องปล่อยวางอย่างถึงที่สุดเช่นกัน

( 19-12-2559)