4 ธันวาคม 2560

....ปาฏิหาริย์ของชีวิต....

วันนี้เดินทางมารพ.ชลประทาน ที่ตึก80ปี เพื่อเยี่ยมโยมคนหนึ่ง ผู้ชายวัย74ปี

ซึ่งญาติวิตกกังวลในอาการที่ทรุดลง (แต่จากการมองของตัวเอง)

บรรยากาศภายในห้อง มีคนอยู่หลายคน ทั้งภรรยา ,
และครอบครัวของเพื่อนสนิทคนนึง  ซึ่งมีสามี(เพื่อนรัก)ภรรยาและลูกสาว

อาการผู้ป่วยนั้นไม่สามารถสื่อสารแต่รับรู้ได้ พอโยมทราบว่าพระมาเยี่ยมก้น้ำตาไหล และแสดงอาการรับรู้ทางการพยักคิ้ว  ได้รับฟังโยมภรรยาเล่าถึงความกังวลที่ เห็นอาการทรุดลง เล่าว่าเคยเป็นแบบนี้มาหนนึงตอนนั้นก็สามารถผ่านมาได้แบบมีปาฏิหาริย์   ครั้งนี้ก็เลย "หวังให้มีปาฏิหาริย์"แบบนั้นอีก  กับได้เห็นว่าโยมภรรยานั้นจะพยายามพูดกับผูุ้ป่วยว่า
"ให้สู้ๆ" หรือคำว่า "ต้องหายไวๆ"

เลยชวนโยมภรรยาได้กลับมาทบทวนภาวะในใจถึงความต้องการนี้ของเรา ว่าเป็นอย่างไรนะ?

โยมกำลังจะร้องขอในสิ่งที่...ไม่ใช่ความจริง
ผู้ป่วยได้ทำอย่างดีที่สุดแล้วนะ...ภายใต้เงื่อนไขทางกายซึ่งคงเป็นได้เท่าที่มันจะเป็นแบบนี้นะ

ชวนโยมมองว่าเราสามารถร้องขอการไม่เจ็บไม่ป่วยไม่จากลาได้อย่างนั้นหรือ???

ชวนโยมได้ตระหนักรู้ว่ายังมีอีกมุมหนึ่งที่อาตมาเห็นและสัมผัสได้ที่กำลังเกิดขึ้นคือ  ความดีที่โยมกำลังทำ  หน้าที่ที่โยมได้ทำ   กัลยาณมิตรที่อยู่ข้างเราในเวลานี้

ได้ชวนให้คิดว่ายังมีโอกาสได้ดูแลกันและกัน .... เพราะหลายคนจากกันไปโดยกระทันหันไม่ทันได้ร่ำลากันแม้แต่น้อย.

ภรรยาได้บอกว่า "กลับบ้านไปก็ยังอดห่วงกังวลไม่ได้"
เลยได้ชวนให้รู้ว่าตอนนี้ผู้ป่วยอยู่ในการดูแลของอาชีพผู้ที่เก่งที่สุดในการรักษาโรคภัยคือคุณหมอ/พยาบาล  และเมื่อโยมบอกว่าวางใจที่หมอพยายาลดูแลอย่างดี....เราจะปล่อยให้หมอได้ทำหน้าที่นี้โดยเราจะได้กลัยมาทำหน้าที่ตน....ต่างคนต่างได้ทำ

หากวันนี้เรากำลังปลูกต้นไม้ต้นนึง เราช่วยกันดูแลใส่น้ำใส่ปุ๋ย ....ถ้าหากต้นไม้ต้นนี้มีแมลงมากัดกินมีใบที่แหว่งวิ่น....เราจะทำอย่างไรต่อ.......เราก็จะต้องกลับมาดูแลให้น้ำให้ปุ๋ยต้นไม้ต้นนี้ต่อไปใช่หรือไม่?

พอให้พูดสิ่งที่สามีเคยทำแล้วประทับใจ โยมเล่าว่าเพราะหนนึงเขาเคยดูแลแม่(แม่ยาย)ของภรรยาตอนเจ็บป่วยอย่างดีมากก  และดูแลครอบครัวอย่างดี.....พระจึงชวนให้ทั้งหมดได้เห็นภึงคุณค่านี้  ได้เห็นถึงสิ่งที่ทุกคนกำลังทำ  และให้เห็นถึงความดีที่ผู้ป่วยทำไว้

ภรรยาบอกว่า ไม่ค่อยอยากดูแลในสภาพป่วยเเบบนี้เลย ทำใจไม่ได้...สงสารเขา

อาตมาเลยชวนคิดว่า "วันนั้นโยมผู้ป่วยที่ดูแลแม่ยายอย่างดี ก็คงไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน แต่มันกลับมามีคุณค่ายิ่งในใจเรามาตลอดการครองเรือนร่วมกันและคงมีในใจโยมต่อไปเลยนะ

 วันนี้เขาป่วยเช่นนี้  เราจะมาช่วยกันดูแลเขาด้วยกันนะ
ดูแลเขาแบบที่เขาได้เคยทำกับแม่เรา.....ให้รางวัลเขาที่เขาทำดีมาทั้งชีวิตเพื่อโยมกัน.....เราจะทำสิ่งนี้กันไหม??

สุดท้ายขอทำบุญ ขอรับศีล๕  โยมผู้ป่วยพยายามประนมมือและให้สัญญาณว่ารับรู้และได้เห็นถึงโยมพยายามจะได้ทำภาวนาตามที่พระบอก.....

"วันนี้ได้มีสิ่งที่เป็นปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแล้วนะ"....และมันยิ่งใหญ่กว่าที่โยมคิดอยากได้ไหมนะที่ตอนนี้....สามีโยมที่ป่วยมีพระ มีหมอ มีพยาบาล มีภรรยา มีเพื่อน  มีกัลยาณมิตร มีเพื่อนมนุษย์และสำคัญที่สุดคือยังมีลมหายใจนี้เพื่อโยมในปัจจุบัน.....เราจะกลับมารักษาใจนี้ไปด้วยกันนะ"

"ภาพที่เห็นคือทุกคนมีน้ำตาแห่งความดีงามของแต่ละคนไหลออกมา....อาตมารับรุ้ได้เลยว่านี่คือพลังที่วิเศษจากความดี ที่น่าปิติตาม"......ก่อนลาโยมกลับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น