8 กรกฎาคม 2560

สรุปการเรียนรู้จากการอบรมถวายความรู
โยมอาจารย์ รศ.ดร.โสรีช์ โพธิแก้ว
○การปรึกษาเชิงพุทธจิตวิทยา○

»»สิ่งที่ฉันเรียนรู้้ ผู้ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาต้องมีแผนที่ในการที่จะนำผู้คนตรงหน้าก้าวพ้นจากความทุกข์ซึ่งแผนที่ที่เที่ยงตรงที่สุดคือ
อริยสัจ 4  และ พุทธธรรม ที่เราควรจะต้องศึกษาให้ถ่องแท้ที่สุด

ทั้งหมดจะมาก็ต้องจากการเฝ้าสังเกตุของเรา
สังเกตุความคิดของเราและใคร่ครวญว่า
…..เรากำลังอยู่กับเขา หรือเปล่า?
…..หรือเรากำลังอยู่กับตัวเรา?

อีกหนึ่ง คีย์wordที่สำคัญ
….ที่ว่างที่เราให้เขา หรือ Space
{ที่ว่างอันไกลโพ้น  ที่ที่เราจะไปพบกัน}
ที่ก่อเกิดการเรียนรุ้ของตนเองชัดเจนมากขึ้น
ได้กลับมารับรู้ว่าเราควรอยู่กับเขาด้วยใจว่าง
พร้อมที่ว่างที่รับรู้เขาอย่างผู้เป็นกัลยานมิตรกัน
ใช้ความเป็นสัมมาทิฏฐิ เปลี่ยน มิจฉาทิฏฐิและอวิชชา
ในใจเขาให้เข้าที่เข้าทาง..ของมันอย่างเข้าใจเขา

อย่าปล่อยให้อดีตอันไกลโพ้น มาครอบงำจิตใจที่เเจ่มใส
เพราะความทุกข์ไม่ได้เกิดจากภายนอก หรือภายใน
แต่มันเกิดเพราะ”อวิชชา…..ความเห็นที่คาดเคลื่อน”


ความคาดหวังจะเกิดขึ้นเมื่อใจชอบและไม่ชอบ มีตัวกูของกูเป็นตัวกำหนดความชอบเกิดพื้นที่ คนที่มีเรื่องราว มักจะถูกเพราะคนที่ไม่ทุกข์ มักจะไม่ค่อยมีเรื่องราว

สิ่งหนึ่งที่จะพัฒนา ใจเราให้เข้มแข็ง
ในฐานะผู้ให้การปรึกษาคือใจที่มีเมตตากรุณา เป็นใจที่ มีปัญญามีขันติ มีความบริสุทธิ์
หลวงพ่อพุทธทาสเคยสอนว่าอย่ามีชีวิตอยู่ด้วยความคาดหวังให้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยปัญญา จุดนี้ทำให้ได้เห็น และได้กลับมาพัฒนาใจตัวเองให้ดีขึ้นเห็นชัดขึ้นมาก

จากการทดสอบในกลุ่มย่อยหลายๆสิ่งที่ แสดงออกมาเป็นส่วนที่ต้องฝึกฝนเพิ่มเติมอยู่ไม่ใช่น้อยซึ่งก็ได้จดบันทึกและนำกลับมาปรับปรุงแก้ไข
{*ดังคำจากนักปราชญ์อีกหลายท่านหลายประโยคที่...จดบันทึกไว}้

ฉะนั้นเมื่อมนุษย์ทั้งหลายบนโลกใบนี้ ทุกอย่างด้วยใจที่เป็นสัมมาทิฏฐิก็จะรู้ว่าเรามีความสัมพันธ์กับผู้คนทั้งหลายสรรพสิ่งทั้งหลายล้วนเป็นปัจจัยที่ทำ
ให้เราดำเนินชีวิตอยู่ได้แบบนี้ไม่มีเขาก็ไม่มีเราไม่มีสิ่งตรงนั้นก็ไม่มีสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเราตรงนี้ เมื่อเห็นเช่นนี้เราจะไม่วางใจ หรือให้ร้ายกับใครซึ่งจะทำให้ใจเรากลับมาเป็นใจที่บริสุทธิ์พร้อมที่จะเลือกซื้อเนื้อแบ่งปันความดีงามสู่ผู้คนได้มากๆๆ

สิ่งที่จะทำให้เราเชื่อมเข้าใกล้เขา คือสมาธิ ฝึกอยู่กับชีวิตตัวเองให้เต็มอิ่มยิ่งขึ้นมีสติอยู่กับ
ปัจจุบันขณะที่ทำอย่างลุ่มลึก หลุดพ้นจากโลกของความคิดที่มันกักขังเราอยู่อย่าทำตัวเหนือกว่า ผลงานและผลงานเหนือกว่าเรา จงอยู่ด้วยความเข้าใจ empathy  เพราะ หากเราไม่ได้รับความเข้าใจก็จะมี โปรแกรมปกป้องตัวเอง
เป็น depensive
คนที่มาหาเราบางทีก็มาด้วย ปัญหาที่ดูไม่หนักหนา แต่ถ้าเราฟังจนถึงความคาดหวังของเขาจริงๆอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราเห็น…….มันไม่ได้อยู่ข้างนอกแต่มันอยู่ลึกลงไปข้างใน
ปัญหาภายนอกไม่สำคัญเท่าปัญหาภายใน
การไม่เข้าไปตัดสินเขาด้วยใจของเราเป็น เรื่องที่ต้องพึงระวังให้จงหนักๆหลายครั้งด้วยประสบการณ์ของเราหรือไม่ความมีเมตตามากเกินไปก็กลายเป็น
ชี้นำหรือตัดสินเขาไปก่อนพื้นที่ที่เคยมีด้วยกันก็กลับมาอยู่แค่ที่เราการศึกษาจึงอาจจะไม่ได้ผลที่สมบูรณ์อันนี้เป็นอีกข้อที่ได้บันทึกไว้ในการเพิ่มเติมให้กับตัวเอง
และส่วนใหญ่ความคาดหวังมักจะเกิดจากบุคคลใกล้ตัวผู้ที่ถูก คือสิ่งใกล้ๆตัวนั่นเอง
และนั่นคือสิ่งที่เราต้องดูแล

การเป็นผู้รับฟัง ก็เป็นปัจจัยสำคัญเพราะ
เราต้องใช้การฟังเขาเพื่ออยู่กับเขาเพื่อช่วยเขาเพื่อออกทุกข์ของิเขา
เขาจะรับรู้ได้ถึงคลื่นที่ปรับเข้าหากันและกันอย่าง
พอเหมาะโดยที่เราใช้ตัวอุเบกขาเป็นฐานของใจ
เราแล้วร่วมเดินทางไปกับเขา สร้างความเชื่อความศรัทธาให้เกิดในใจเขา เพราะความศรัทธาจะทำให้เราเป็นอย่างที่เรา อยากเป็น
ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมาเดี๋ยวมาจารได้กล่าวสรุปว่าก็คือหลักของไตรสิกขาซึ่งนำมา เป็นหลักควบคู่กับการใช้แผนที่คืออริยสัจ 4 ซึ่งทั้งหมดของการศึกษาค้นคว้า ก็ด้วยพุทธธรรม

สิ่งที่เกิดขึ้นในการ workshop
เพื่อเรียนรู้ให้ตัวเอง

สิ่งที่ได้เรียนรู้และเป็นสิ่งที่ตัวเองต้องเพิ่มเติมให้มากคือภาวะที่สมาธิยังไม่นิ่งพอทำให้คลื่นที่เราส่งไปกับเขา ไม่ค่อยจะเสถียรราบรื่นอันก่อผลไปถึงทำให้พื้นที่
ระหว่างเราก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วยอีกส่วนคือใจที่คิดอยากช่วยมากไปก็กลายเป็น รีบร้อนและและกลับมาอยู่กับตัวเองมากเกินกว่าที่ควรจะ
อยู่กับเขา...พร้อมถึงได้เห็นมุมมองต่างๆจากสมาชิกในกลุ่มซึ่งก็เป็นมุมมองที่ยอดเยี่ยมหลังจากถอดบทเรียนแล้วก็ทำให้ได้จดบันทึกหลายข้อสำหรับตัวเองเป็นสิ่งที่ดีงามที่จะใช้ในการพัฒนาตนเองได้อีกมาก

สุดท้ายการได้กลับมาสังเกตุตัวตน….สังเกตุชีวิตมากขึ้นๆ
ก็ก่อประโยชน์อย่างยิ่งในการเป็นผู้ให้คำปรึกษา

แม้ในความเป็นพระภิกษุจะมีโอกาสในการใช้ธรรมะกับผู้ที่กำลังทุกข์ได้ง่าย...แต่หากได้ทำด้วยขั้นตอนตามแนววิชาการ
ของจิตวิทยาการปรึกษาที่ดี ประโยชน์ที่ผู้คนที่กำลังทุกข์จะได้รับก็ย่อมจะมากขึ้นอันจะเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่เขาจึงอยู่ที่การพัฒนาตนและพยายามปรับปรุงตัวพัฒนาใจให้ดียิ่งขึ้น


»» คุ้มค่าอย่างยิ่งในการพยายามฝึกปรือพัฒนาตน
แล้วได้มาร่วมได้รับการ ถ่ายทอดความรู้จากโยมอาจารย์ปลื้มอาตมภาพขอรับปากว่าจะนำทุกคำที่ได้เรียนรู้และพัฒนาเพื่อแปรเปลี่ยนเป็นความรักความปรารถนาดีออกไปให้แก่ผู้คนตรงหน้าอีกมากมายทั้งในส่วนงานเยี่ยมไข้ที่ได้ทำอยู่สม่ำเสมอก็จะพยายามใช้สมาธิและใช้แผนที่คืออริยสัจ 4 อย่างสม่ำเสมอจะดำรงอยู่ตามคำแห่งพุทธธรรม สุดที่กำลังจะมีเพื่อคุณได้จนกว่าชีวิตจะหมดลม

เจริญพร
พระภัทรพล ชุตินฺธโร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น