เมื่อหลายสิบปีก่อน
ผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย
ว่าดวงวิญญาณที่จะมาถือปฏิสนธิในครรภ์ของท่านนั้น มาจากสวรรค์ชั้นไหน หรือมาจากนรกขุมใด แต่ทันทีที่รู้ว่าแม้กำลังตั้งท้อง เธอจะดีใจยินดีอนุญาติให้ลูกมาถือปฏิสนธิทันที ไม่มีความรังเกียจคิดสิ่งไหนแต่ประการใด
" รักใดเล่าจะแน่เท่าแม่รัก
ผูกสมัครรักม่นไม่หวั่นไหว
ห่วงใดเล่าเท่าห่วงดังดวงใจ
ที่แม่ให้แก่ลูกอยู่ทุกครา
ยามล้มกลิ้งใครหนอวิ่งเข้ามาช่วย
แล้วปลอดด้วยคำหวานกล่อมขวัญให้
พร้อมจูบที่เจ็บชมัดปัดเป่าไป
ผู้นั้นไซร้ที่แท้..แม่ฉันเอง "
แม่ คำๆนี้เป็นเพียงคำสั้นๆ แต่มีความหมายที่ลึกซึ้ง ท่านคือผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่งบนโลก แต่กลับเป็นคนพิเศษสำหรับลูกรัก แม่คือผู้ประเสริฐสุดในชีวิตทุกๆชีวิต เป็นผู้ที่สามารถให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่ลูกได้ ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน เงินทอง
ของมีค่าหรือแม้กระทั่ง ลมหายใจที่ยังเหลืออยู่ของแม่
ตลอดเวลาตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแม่
จน ณ วินาทีนี้แม่ก็ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ให้ไม่มีสิ้นสุด แม่ให้ทั้งความรัก ความห่วงหา ความห่วงใย ความอาทรอีกทั้งยังมอบความรักที่มิอาจมีรักใด
มาทดแทนได้ให้แก่เรา
นั่นก็คือความรัก ความผูกพัน
ระหว่าง … แม่ และ ลูก …
รักของแม่นั้นเปรียบดั่งสายธารา ที่คอยระงับความทุกข์ใจของลูก แม้ในยามที่ลูกไม่ต้องการ
แม่ก็คือผู้ให้คำปรึกษาเป็นอย่างดี
ในเวลาที่ลูกรักต้องเสียน้ำตา แม่ก็สละเวลาทำงานของแม่ มาคอยปลอบโยนไม่คิดโกรธ หรือเคืองลูกรักแม้แต่น้อย
และที่ในบางครั้งบางคราว ลูกรักก็ไม่เชื่อฟังคำที่แม่พร่ำสั่งพร่ำสอน ในช่วงเวลาต่างๆในชีวิต
เรานั้นก็ต่างผ่านอารมณ์ต่างๆ มามากมาย ในเวลาที่เรามีความสุข แม่ก็มีความสุขไปกับเรา แต่ในเวลาที่เราทุกข์แม่กลับทุกข์กว่าเรา
หลาย 10 หลาย 100 เท่านัก
แต่ท่านก็ไม่เคยแสดงออกถึงความอ่อนล้า
ตั้งแต่ เด็กจนเติบโตเป็นวัยรุ่น แม่เฝ้าสั่งสอนให้เป็นคนดี ตั้งใจเรียนหนังสือ และแม่ก็ให้ความรักอย่างจริงใจ แม้ว่าสิ่งที่เคยทำผิดพลาดไปนับครั้งไม่ถ้วน แม่ก็ยังให้อภัยลูกคนนี้เสมอ
และยังมอบรอยยิ้มทั้ง ๆ ที่แม่ ก็ต้องเสียน้ำตา ความผิดของลูกไม่ว่าจะครั้งไหน
ร้ายแรงสักเพียงใด
แม่ก็ยังพร้อมที่จะอ้าแขนกอดลูก
ด้วยความรักเสมอมา